Monday, July 4, 2016

แทบช็อก!! ฉากต่อฉาก ขณะประตูครูสาวไม่ได้ล็อก คนร้ายเข้าไป เกิดพลาดแบบนี้ จนครูสาวรู้ตัว จากนั้นเกิดอะไรขึ้น!???

"ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ก่อนเหตุเหตุดื่มเบียร์ไป 1 ขวด ที่ห้องพักตนเองจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กอดแฟนตัวเองซึ่งเป็นสาวประเภทสองและขอร่วมเพศ แต่แฟนไม่ยอม จึงเดินไปห้องของผู้ตายซึ่งประตูไม่ได้ล็อก จึงเข้าไปเพื่อจะข่มขืน ขณะที่ตนเองพยายามจะข่มขืน ผู้ตายตื่นมา จึงตกใจ ร้องโวยวาย จึงเกิดความกลัวใช้มือปิดปากผู้ตายพร้อมใช้มีดที่วางอยู่ข้างๆตัว ปาดที่คอจนแน่นิ่ง พร้อมกับทิ้งมีดไว้ในห้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้กลับห้องตนเอง อาบน้ำเพื่อล้างคราบเลือดที่ติดมากับเสื้อผ้า และพบว่า หลังมือซ้ายมีแผลถูกมีดบาด เลือดยังไหลไม่หยุด จึงนำเสื้อตัวที่ใส่ก่อเหตุมาพันมือ เพื่อห้ามเลือด และกลับไปนอนกับแฟนที่ห้องพักแล้วตื่นเช้าไปทำงานตามปกติ"
 
นอก จากก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว นายชาตรี ยังรับว่า เคยก่อเหตุข่มขืนภรรยาเพื่อนของตนเองเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2556 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ข้างถนนบ้านเขาซุย ต.ท่าตูม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มาก่อน และต้องโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน พึ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ส.ค. 2558 

แม่ใจสลาย !! ฟังชาตรีฆาตกรโหดสารภาพหน้าเฉย ไม่สะทกสะท้าน ตั้งใจทำแบบนี้ !??

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำ นายชาตรี พบบาดมือข้างซ้าย ลักษณะถูกของมีคม และมีรอยฟันกัด จากการให้ปากคำมีลักษณะเป็นพิรุธ จึงตรวจสอบ DNA ในที่สุดสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง  "ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่า ก่อนเหตุเหตุดื่มเบียร์ไป 1 ขวด ที่ห้องพักตนเองจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กอดแฟนตัวเองซึ่งเป็นสาวประเภทสองและขอร่วมเพศ แต่แฟนไม่ยอม จึงเดินไปห้องของผู้ตายซึ่งประตูไม่ได้ล็อก จึงเข้าไปเพื่อจะข่มขืน ขณะที่ตนเองพยายามจะข่มขืน ผู้ตายตื่นมา จึงตกใจ ร้องโวยวาย จึงเกิดความกลัวใช้มือปิดปากผู้ตายพร้อมใช้มีดที่วางอยู่ข้างๆตัว ปาดที่คอจนแน่นิ่ง พร้อมกับทิ้งมีดไว้ในห้องที่เกิดเหตุ
 
หลัง จากนั้นได้กลับห้องตนเอง อาบน้ำเพื่อล้างคราบเลือดที่ติดมากับเสื้อผ้า และพบว่า หลังมือซ้ายมีแผลถูกมีดบาด เลือดยังไหลไม่หยุด จึงนำเสื้อตัวที่ใส่ก่อเหตุมาพันมือ เพื่อห้ามเลือด และกลับไปนอนกับแฟนที่ห้องพักแล้วตื่นเช้าไปทำงานตามปกติ"      
 
 
ทั้ง นี้ นายชาตรี เคยก่อเหตุข่มขืนภรรยาของเพื่อนมาแล้วเมื่อปี  2556  ต้องโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน พึ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ส.ค. 2558  ที่ผ่านมา  ด้านนายชาตรี  กล่าวต่อว่า  เคยพูดคุยกับผู้ตายมาบ้าง รู้จักประมาณ 4-5 เดือน ไม่ได้จีบ แต่ชอบ วันเกิดเหตุเห็นประตูไม่ได้ล็อก ไม่ได้งัดประตูเข้าไป ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน ก่อเหตุแค่อยากได้ทรัพย์สิน การข่มขืนนั้น ตนยังกระทำการไม่เสร็จ เพราะผู้ตายดิ้นก่อน และผู้ตายก็ส่งเสียงกรี๊ดขึ้นมา ส่วนมีดที่ใช้ก่อเหตุนั้นอยู่ในห้องผู้ตายไม่ได้เตรียมมา  ขณะที่เดินเข้าไปในห้องนั้น ได้เดินไปสะดุดปลั๊กไฟ ผู้ตายเลยรู้สึกตัว ที่ลงมือก่อเหตุเพราะกลัวคนอื่นจะรู้    
 
  "หลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหน คิดว่า ทำผิดเลยยอมรับ ส่วนหลังก่อเหตุไม่ได้บอกอะไรแฟน เสื้อที่ถลกขึ้น นายชาตรี กล่าวว่า เป็นเพราะผู้ตายดิ้น เลยหลุดเอง ไม่ทราบว่าผู้ตายมีแฟนอยู่แล้ว ก็เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวด้วย"นายชาตรี กล่าว

ขณะที่ถาม "ชาตรี" ทำไมถึงฆ่าข่มขืน "ครูอิ๋ว" เจอคำตอบมึนๆแบบนี้เข้าไป ทำเอาอึ้งทั้งโรงพัก !???

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ห้องประชุมเอราวัณ ตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รองผบช.ภ.1 นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช. พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผกก.สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้นำตัว นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 7 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ 16/2559 พร้อมด้วยของกลาง มีดยาวประมาณ 5-6 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม เสื้อ 1 ตัว โดยกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
โดยพฤติการณ์ในการจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งเหตุ จึงเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยละเอียดพบว่า เป็นบ้านเช่าชั้นเดียวหันเข้าหากัน จำนวน 10 ห้อง มีรั้วรอบขอบชิดน่าเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเคยรู้จักและอยู่ในบริเวณใกล้เคียง จึงได้ตรวจสอบผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านเช่าและสถานที่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ว่า มีบุคคลใดมีประวัติในการกระทำผิดเกี่ยวกับคดีทรัพย์ เพศ หรือ ยาเสพติด จนในที่สุดตรวจสอบพบว่า นายชาตรี เคยต้องโทษเกี่ยวกับคดีเพศ จึงได้ติดตามตัวมาสอบปากค
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำแล้วพบว่า นายชาตรี หลังมือข้างซ้ายมีแผล ลักษณะถูกของมีคม และมีรอยฟันกัด ให้ปากคำมีลักษณะเป็นพิรุธ จึงได้เรียกเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจเพื่อมาเก็บ DNA ตรวจสอบ ในที่สุด นายชาตรี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมนำตรวจยึดเสื้อที่สวมใส่วันเกิดเหตุไว้เป็นของกลาง
"ผู้ต้องหา ได้รับสารภาพว่า ก่อนเหตุเหตุดื่มเบียร์ไป 1 ขวด ที่ห้องพักตนเองจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ และได้กอดแฟนตัวเองซึ่งเป็นสาวประเภทสองและขอร่วมเพศ แต่แฟนไม่ยอม จึงเดินไปห้องของผู้ตายซึ่งประตูไม่ได้ล็อก จึงเข้าไปเพื่อจะข่มขืน ขณะที่ตนเองพยายามจะข่มขืน ผู้ตายตื่นมา จึงตกใจ ร้องโวยวาย จึงเกิดความกลัวใช้มือปิดปากผู้ตายพร้อมใช้มีดที่วางอยู่ข้างๆตัว ปาดที่คอจนแน่นิ่ง พร้อมกับทิ้งมีดไว้ในห้องที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้กลับห้องตนเอง อาบน้ำเพื่อล้างคราบเลือดที่ติดมากับเสื้อผ้า และพบว่า หลังมือซ้ายมีแผลถูกมีดบาด เลือดยังไหลไม่หยุด จึงนำเสื้อตัวที่ใส่ก่อเหตุมาพันมือ เพื่อห้ามเลือด และกลับไปนอนกับแฟนที่ห้องพักแล้วตื่นเช้าไปทำงานตามปกติ"
นอกจากก่อ เหตุในครั้งนี้แล้ว นายชาตรี ยังรับว่า เคยก่อเหตุข่มขืนภรรยาเพื่อนของตนเองเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2556 เวลาประมาณ 20.00 น. ที่ข้างถนนบ้านเขาซุย ต.ท่าตูม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มาก่อน และต้องโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน พึ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ส.ค. 2558
พล.ต.ท. ชัยวัฒน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุน้องอิ๋ว ไม่รับโทรศัพท์ ให้เพื่อนครูเข้ามาตามและเจอศพ หลังจากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่ปรากฎเป็นข่าว จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนมานั่งทานข้าวกับผู้ตาย 3-4 คน ครูยังทักผู้ต้องหาว่า กินด้วยกันหรือไม่ตามอัธยาศัยดี  ในส่วนของพนักงานสอบสวนพยายามรวบรวมทั้งพยานแวดล้อม หลักฐานต่างๆ เพื่อใช้ในการลงโทษตามที่สมควรจะได้รับโทษ หลังเกิดเหตุได้ระดมร่วมมือกันอย่างเต็มที่ เพื่อจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยรวดเร็วที่สุด



ด้านนายชาตรี กล่าวว่า เคยนั่งพูดคุยกับผู้ตายอยู่บ้าง ซึ่งเคยรู้จักกับผู้ตายมาเมื่อประมาณ 4-5 เดือน ไม่ได้จีบ แต่ชอบ ที่เกิดเหตุนั้น เห็นประตูไม่ได้ล็อก โดยเปิดประตูไม้ทิ้งไว้ ปิดประตูเหล็กซึ่งจนไม่ได้งัดประตูเข้าไป ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน วันที่ก่อเหตุอยากได้ทรัพย์สิน และอย่างอื่น ซึ่งการข่มขืนนั้น ตนยังกระทำการไม่เสร็จ เพราะผู้ตายดิ้นก่อน และระหว่างก่อเหตุผู้ตายได้กรี๊ดขึ้นมา ส่วนมีดนั้น อยู่ในห้องของผู้ตายเอง ไม่ได้เตรียมมา เมื่อเดินเข้าไปในห้องเดินเตะปลั๊กไฟ ผู้ตายเลยรู้สึกตัว ที่ลงมือก่อเหตุเพราะกลัวคนอื่นจะรู้



"หลังก่อเหตุไม่ได้หนีไปไหน คิดว่า ทำผิดเลยยอมรับ ส่วนหลังก่อเหตุไม่ได้บอกอะไรแฟน เสื้อที่ถลกขึ้น นายชาตรี กล่าวว่า เป็นเพราะผู้ตายดิ้น เลยหลุดเอง ไม่ทราบว่าผู้ตายมีแฟนอยู่แล้ว ก็เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอโทษครอบครัวด้วย"นายชาตรี กล่าว

Thursday, June 30, 2016

ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็

ถ้าใครยังจำได้ดี เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมของปีนี้ ได้มีภาพที่สะเทือนใจคนทั่วโลกออกมา นั่นคือภาพที่ชายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียคนหนึ่งอุ้มลูกสาวตัวน้อย เร่ขายปากกาในประเทศเลบานอนเพื่อยังชีพ จนมีคนระดมทุนช่วยเหลือผู้ชายคนนี้ แต่เพียงเวลาผ่านไปแค่ 5 เดือน ด้วยความสามารถและไอเดีย ทำให้ชายคนนี้กลายเป็นเจ้าของกิจการไปแล้วถึง 3 แห่งในประเทศเลบานอน
ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็ - 1
ชาย คนดังกล่าวชื่อ อับดุล ฮาลิม อัตตา (Abdul Halim al-Attar) วัย 33 ปี เป็นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ ที่ลี้ภัยจากประเทศซีเรียจากสงครามในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ประกอบอาชีพเร่ขายปากกาในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน แต่ในขณะนี้ เขาเป็นเจ้าของกิจการกว่า 3 กิจการ ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านเคบับ และร้านอาหารขนาดเล็ก มีรายได้รวมราว 191,000 ดอลลาร์ หรือราว 6,850,000 บาท

ซึ่ง ทั้งหมดมาจากการระดมทุนในแคมเปญ crowdfunding หรือการขายไอเดียให้คนช่วยสนับสนุนเงินทุนมาสร้างธุรกิจ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารถึง 3 อย่าง และมีลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้อพยพจากตะวันออกกลางเช่นเดียวกันอีก 16 ชีวิต
ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็ - 2
ชาย คนดังกล่าวชื่อ อับดุล ฮาลิม อัตตา (Abdul Halim al-Attar) วัย 33 ปี เป็นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์ ที่ลี้ภัยจากประเทศซีเรียจากสงครามในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ ประกอบอาชีพเร่ขายปากกาในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน แต่ในขณะนี้ เขาเป็นเจ้าของกิจการกว่า 3 กิจการ ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านเคบับ และร้านอาหารขนาดเล็ก มีรายได้รวมราว 191,000 ดอลลาร์ หรือราว 6,850,000 บาท

ซึ่ง ทั้งหมดมาจากการระดมทุนในแคมเปญ crowdfunding หรือการขายไอเดียให้คนช่วยสนับสนุนเงินทุนมาสร้างธุรกิจ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารถึง 3 อย่าง และมีลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้อพยพจากตะวันออกกลางเช่นเดียวกันอีก 16 ชีวิต
ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็ - 3
ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็ - 4ปัดโธ่จำได้ไหม!!! อุ้มลูกร้องไห้ขายปากกาเลี้ยงชีพ แค่ 5 เดือนผ่านไป เป็นแบบนี้ไปแล้ว จะเป็ - 5

หวยปืนทอง เลขเด็ดงวนี้ 1/07/59

เลขเด็ดงวดนี้ หวยปืนทอง 1/07/59 มาแล้วครับเช้าวันนี้ ถือยังคงเป็นที่รอคอยของบรรดาคอหวยทุกคน สำหรับประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 จะมีเลขไหนบ้าง เชิญคอหวยรับชมได้เลยครับ




 ขอบคุณเจ้าของข้อมูล : โชคดีทุกคน
ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นแนวทางซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น