ถ้าใครยังจำได้ดี
เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมของปีนี้ ได้มีภาพที่สะเทือนใจคนทั่วโลกออกมา
นั่นคือภาพที่ชายผู้ลี้ภัยชาวซีเรียคนหนึ่งอุ้มลูกสาวตัวน้อย
เร่ขายปากกาในประเทศเลบานอนเพื่อยังชีพ จนมีคนระดมทุนช่วยเหลือผู้ชายคนนี้
แต่เพียงเวลาผ่านไปแค่ 5 เดือน ด้วยความสามารถและไอเดีย
ทำให้ชายคนนี้กลายเป็นเจ้าของกิจการไปแล้วถึง 3 แห่งในประเทศเลบานอน

ชาย
คนดังกล่าวชื่อ อับดุล ฮาลิม อัตตา (Abdul Halim al-Attar) วัย 33 ปี
เป็นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์
ที่ลี้ภัยจากประเทศซีเรียจากสงครามในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งก่อนหน้านี้
ประกอบอาชีพเร่ขายปากกาในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน แต่ในขณะนี้
เขาเป็นเจ้าของกิจการกว่า 3 กิจการ ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านเคบับ
และร้านอาหารขนาดเล็ก มีรายได้รวมราว 191,000 ดอลลาร์ หรือราว 6,850,000
บาท
ซึ่ง
ทั้งหมดมาจากการระดมทุนในแคมเปญ crowdfunding
หรือการขายไอเดียให้คนช่วยสนับสนุนเงินทุนมาสร้างธุรกิจ
ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารถึง 3
อย่าง และมีลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้อพยพจากตะวันออกกลางเช่นเดียวกันอีก 16
ชีวิต
ชาย
คนดังกล่าวชื่อ อับดุล ฮาลิม อัตตา (Abdul Halim al-Attar) วัย 33 ปี
เป็นผู้อพยพชาวปาเลสไตน์
ที่ลี้ภัยจากประเทศซีเรียจากสงครามในคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งก่อนหน้านี้
ประกอบอาชีพเร่ขายปากกาในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน แต่ในขณะนี้
เขาเป็นเจ้าของกิจการกว่า 3 กิจการ ทั้งร้านเบเกอรี่ ร้านเคบับ
และร้านอาหารขนาดเล็ก มีรายได้รวมราว 191,000 ดอลลาร์ หรือราว 6,850,000
บาท
ซึ่ง
ทั้งหมดมาจากการระดมทุนในแคมเปญ crowdfunding
หรือการขายไอเดียให้คนช่วยสนับสนุนเงินทุนมาสร้างธุรกิจ
ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารถึง 3
อย่าง และมีลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้อพยพจากตะวันออกกลางเช่นเดียวกันอีก 16
ชีวิต






0 comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.